ทำอย่างไร เมื่อต้องเผชิญกับ PM2.5

ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่กับปัญหามลภาวะฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน ที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่กลางแจ้งที่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงไรเดอร์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นฮีโร่ส่งต่อความอิ่ม และรอยยิ้มให้กับผู้ใช้บริการ

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมฝุ่นจิ๋วนี้ถึงไม่หายจากประเทศไทย ต้องแยกก่อนว่า สาเหตุของฝุ่นมีแหล่งกำเนิดมาจาก 2 แหล่ง คือ

  • แหล่งกำเนิดปฐมภูมิ เช่น การคมนาคมขนส่ง, การเผาในที่โล่งแจ้ง, โรงงานอุตสาหกรรม, โรงงานผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล

  • แหล่งกำเนิดทุติยภูมิ เช่น การปฏิกิริยาเคมีในอากาศโดยมีสารเคมีกลุ่มซัลเฟอร์ หรือกลุ่มไนโตรเจนและแอมโมเนียเป็นสารตั้งต้น รวมทั้งสารเคมีต่างๆ ที่เป็นอันตราย เช่น ปรอท, แคดเมียม, อาร์เซนิก, โพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน และสารก่อมะเร็งจำนวนมาก

ปัจจัยที่ทำให้ PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหาในปัจจุบัน คือ ยังคงมีแหล่งสร้างมลพิษทางอากาศซึ่งเรายังไม่สามารถควบคุมให้ปริมาณมลพิษทางอากาศจากแหล่งที่มาเหล่านี้ลดลงได้ รวมถึงสภาพความกดอากาศต่ำ ทำให้การเคลื่อนย้ายของฝุ่นมลภาวะทางอากาศไม่ถ่ายเทออกไปโดยง่าย”


ข้อปฏิบัติแนะนำสำหรับไรเดอร์

สัญญาณบ่งบอกร่างกายกำลังได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 สามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพทั่วไประยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะถ้ามีการสะสมในร่างกายเป็นระยะเวลานานๆ เช่น

  • ต่อระบบผิวหนัง ทำให้มีปัญหาผื่นคัน ผื่นแพ้, ลมพิษ, ผิวหน้าเหี่ยวแพ้ง่าย และเกิดริ้วรอยบริเวณร่องแก้มมากยิ่งขึ้นด้วย

  • ต่อระบบทางเดินหายใจ กระตุ้นภูมิแพ้, โรคหืด, โรคถุงลมโป่งพอง, ทำให้เกิดปัญหาโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, มะเร็งปอด
    ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง

  • มีผลต่อการพัฒนาการสติปัญญาของเด็ก

  • กระทบต่อการเจริญเติบโตของร่างกายในเด็ก และสามารถส่งผลถึงทารกในครรภ์มารดาทำให้เจริญเติบโตช้าหรือคลอดก่อนกำหนดได้

“ทุกคนทุกวัยมีความเสี่ยงต่อฝุ่น PM 2.5 ดังนั้น ควรป้องกันการรับฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ร่างกายกันทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคปอด, โรคหัวใจ ฯลฯ หญิงตั้งครรภ์ และเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี”

ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลไทยนครินทร์

Previous
Previous

ครบเครื่องเรื่อง MART

Next
Next

เซอไพรส์พิเศษ